Blog


เราจะทำให้นักเรียนชื่นชอบในวิชาคณิตศาสตร์ได้อย่างไร? - Mr. Paul Moffatt
November 13, 2018, 4:33 pm

จากประสบการณ์การสอนของผม คณิตศาสตร์ เป็นเรื่องที่ใครหลายคนทั้งรักทั้งเกลียด แต่สำหรับผมแล้วผมชื่นชอบศาตร์แห่งการคำนวนนี้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราจะต้องแก้โจทย์ปัญหาหรือต้องหาผลลัทธ์เป็นตัวเลข ผมรู้สึกตื่นเต้นและมองว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของผมอยู่เสมอ

ผมรู้ดีว่านักเรียนหลายคนรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่ชอบที่จะเรียน วิชาคณิตศาสตร์ และมันก็ทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบใจในความคิดเหล่านี้ด้วยเช่นกัน! นั่นเป็นเพราะว่าจริงๆแล้วการเรียนวิชาคณิตศาสตร์สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความอยากรู้ได้เป็นอย่างมาก โดยมีที่กุญแจสำคัญคือการตั้งคำถามให้พวกเขาได้ค้นหาคำตอบอย่างถูกวิธี ซึ่งโดยทั่วไปนั้นบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของคุณครูส่วนใหญ่มักจะประกอบด้วยเพียงการใช้ตำราและแบบฝึกหัดจากหนังสือ และนั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจเท่าไรนักเมื่อพบว่านักเรียนที่ได้พบกับการเรียนการสอนแนวนี้ส่วนใหญ่มีความรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่อยากจะเรียนวิชานี้เอาเสียเลย แต่ในมุมกลับกันถ้าหากคุณครูเหล่านั้นได้ลองเปลี่ยนแนวการเรียนการสอนดู  ลองตั้งโจทย์ให้มีความท้าทายแก่นักเรียนพอประมาณ โดยปกติแล้วหากนักเรียนพบว่าโจทย์ข้อนี้เขาน่าจะสามารถทำได้พวกเขาก็จะก้าวขึ้นสู่ความอยากรู้อยากลอง เริ่มอยากสัมผัสความท้าทายและสุดท้ายก็จะทำให้พวกเขามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการเรียนวิชาคณิตศาตร์ และถ้าหากแนวการสอนแบนี้อาจจะดูผิดแปลกไปจากตามตำราไปบ้างสำหรับผม ในฐานะที่เป็นครูมันไม่สำคัญเท่ากับว่าถ้าหากบทเรียนจะมีความแตกต่างออกไปเล็กน้อยแต่สามารถช่วยเติมเติมและกระตุ้นให้นักเรียนของผมมีความรู้สึกที่ต้องการจะเรียนรู้ในวิชาคณิตศาสตร์อย่างเต็มที่ ซึ่งในมุมมองของผมวิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ทักษะการคำนวน การนับจำนวนหรือตัวเลข แต่มันเป็นสาขาวิชาหนึ่งที่จะช่วยจุดประกายความคิดในตัวนักเรียนแต่ละคนในการใช้ทักษะความรู้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่เพื่อให้สามารถแก้ไขโจทย์ปัญหานั้นๆลงไปได้ รวมไปถึงการได้มาซึ่งผลลัพธ์อันถูกต้องด้วย

และก่อนหน้าที่ผมจะได้มาเป็นคุณครูผู้สอนที่โรงเรียน ISC แห่งนี้  ผมเคยทำงานเป็นคุณครูให้กับกลุ่มนักเรียนที่ความรู้ทางคณิตศาสตร์ทั้งในแบบยอดเยี่ยม และกลุ่มนักเรียนที่ไม่ถนัดหรือเข้าใจเรื่องคณิตศาสตร์เเอาเสียเลยมาก่อน ณ ตอนนั้นผมเริ่มสอนพวกเข้าจากจำนวนนับอย่างง่าย เริ่มจากการคิดคำนวนเลขหนึ่งหลัก หลักจากนักเรียนกลุ่มนั้นเข้าใจดีแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนหลักไปที่สองหลัก และสามหลักตามลำดับ ในขณะที่เด็กนักเรียนส่วนใหญ่กำลังแก้โจทย์ตัวเลขตามที่ผมได้ทำขึ้น ผมสังเกตเห็นนักเรียนสองคนกำลังถกเถียงปัญหากันค่อนข้างเสียงดัง ผมจึงเดินเข้าไปถามสาเหตุจากพวกเขา เด็กคนหนึ่งตอบว่า "เพื่อนผมคิดว่า 100 - 1 = 99 แต่ผมคิดว่ามันผิด คำตอบมันควรจะเป็น 199 มากกว่า" เมื่อผมได้ฟังดังนั้นจึงทำให้ผมสนใจในแนวคิดของพวกเขาทั้งสองอย่างยิ่ง และสิ่งหนึ่งที่ผมยึดถือพร้อมทั้งนำมาใช้โดยตลอดก็คือ 'การพิสูจน์คำตอบของตนเอง' ดังนั้น ผมจึงขอให้นักเรียนคนดังกล่าวพิสูจน์ว่าแนวคิดของเขาได้คำตอบที่ถูกต้องและเป็นเพื่อนของเขาต่างหากคำนวนผิดพลาดจริงๆและแน่นอนว่าเด็กนักเรียนคนนี้ก็รับคำกลับไปพิสูจน์แนวคิดของเขาจริงๆ บรรยากาศห้องเรียนกลับเข้าสู่ปกติ นักเรียนแต่ละคนต่างพยายามแก้โจทย์ตามทีตนเองได้รับ สิบห้านาทีผ่านไปผมสังเกตเห็นเด็กนักเรียนคนนั้นก็ยังคงพยายามพิสูจน์ว่าเขาถูกต้อง และผมก็ปล่อยให้เขาใช้เวลาคิดทบทวนอย่างเต็มทีหลังจากนั้นก่อนหมดคาบ นักเรียนคนดังกล่าวกลับมาหาผมพร้อมกระดาษในมือ (กระดาษมีจำนวน 100 ช่วงและถูกกาทิ้งไป 1 ช่อง) และบอกกับผมว่าเขาพิสูจน์ดูแล้วและเป็นความจริงที่ว่าเพื่อนร่วมห้องของเขาคิดถูกคำตอบต้องเป็น 99 เขารู้สึกผิดหวังและเสียใจที่เขาคิดผิด ผมจึงได้พูดกับเขาไปว่าจากเรื่องนี้เขาได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆหรือไม่ และได้พูดต่อไปว่าจากเรื่องนี่เขาไม่ควรเสียใจนะเพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เขาเข้าใจหลักการทางคณิตศาสตร์ได้มากขึ้น หลังจากจบประโยคนี้ เขารู้สึกดีขึ้นเมื่อคิดทบทวนดูแล้ว่าผมไม่ได้ตำหนิความผิดพลาดเขาแต่อย่างใด และนักเรียนคนนี้ก็หัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย  จากนั้นเขาก็เดินกลับไปขอโทษเพื่อนคนก่อนหน้าและบอกว่าแนวคิดของเธอถูกต้องดีแล้ว

และผมก็คือผม ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำตอบที่ถูกต้องที่สุดจานักเรียนของผม และผมจะไม่ต้องการตำหนิเมื่อได้ฟังคำตอบที่ผิดพลาดจากนักเรียนของผม ผมสนใจในความมุ่งมั่นในการค้นคว้าหาคำตอบและแก้ไขปัญหาของนักเรียนมากกว่า ซึ่งจากกรณ๊นักเรียนคนดังกล่าวผมพบว่าเขาพยายามใช้ความสามารถของเขาอย่างเต็มที่ เขาก็นั่งลงที่โต๊ะและใช้เวลานานกว่า 30 นาที ท่ามกลางห้องเรียนที่วุ่นวายและเพื่อนนักเรียนหลายคนต่างทำกิจกรรมที่อาจจะรบกวนสมาธิของเขา อีกสิ่งหนึ่งที่ผมกังวลคือความรู้สึกผิดหรือเสียใจที่เกิดขึ้นเมื่อเขาได้ค้นพบแล้วว่าตัวเองผิด ผมสังเกตเขาว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร และสิ่งที่เขาแสดงออกมานั่นทำให้ผมดีใจที่เขายอมรับว่าตนเองคิดผิดแต่แรกและรู้จักการขอโทษรวมถึงการแสดงความยินดีกับเเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ ที่คิดคำตอบออกมาได้อย่างถูกต้องด้วย ซึ่งในขณะเดียวกันเขาไม่แสดงอาการเศร้าเท่าที่ควรจะเป็น กลับกลายเป็นว่าจากบทเรียนดังกล่าวที่เขาได้รับทำให้เขาภูมิใจในตัวเองมากยิ่งขึ้นไปด้วยซ้ำ เพราะว่าเขาสามารถหาจุดบกพร่องของตัวเองและแก้ไขให้มันเป็นไปในทางที่ถูกที่ควร แม้ว่าในระหว่างการทบทวนค้นคว้าด้วยตัวเองนั้นจะทำให้เขาเสียเวลาในการทำโจทย์ข้ออื่นๆไปเป็นเวลากว่า 30 นาทีก็ตาม


จากประสบการณ์การสอนที่ผมได้สัมผัสตลอดการเป็นครูของผมนี้  นักเรียนของผมส่วนใหญ่จึงชอบบอกว่าตัวเขาเองไม่เก่งคณิตศาสตร์หรือไม่ก็อาจจะแก้โจทย์คณิตศาสตร์ได้ในระดับปานกลาง ซึ่งจากที่ผมสัมผัสพวกเขาในระหว่างที่ทำการสอนพบว่านั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงเลย นักเรียนของผมแต่ละคนต่างมีความสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจคณิตศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ผมมองว่าบางทีนักเรียนของผมส่วนใหญ่ยังมีแนวคิดที่ว่าสำหรับพวกเขาการเรียนคณิตศาสตร์ก็คงเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการศึกษาภาควิชาบังคับเท่านั้น พวกเขาจึงค่อนข้างที่จะไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้และสนุกไปกับมัน  ซึ่งในฐานะที่ผมเคยเป็นคุณครูชำนาญและมีประสบการณ์สอนคณิตศาตร์มาก่อน จะมีประโยชน์อันใดหากผมไม่สามารถสร้างแรงจูงใจในการเรียนหรือว่าช่วยลบล้างทัศนะคติในแง่ลบจากนักเรียนของผมที่มีต่อวิชาคณิตศาสตร์ได้