ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยายอมรับว่าเด็กๆ สามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นเมื่อพวกเขากำลังสนุก นั่นเป็นเพราะการทำงานของสมองที่เรียกว่าฮิบโปแคมปัส ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้ผู้คนสามารถจำสิ่งที่เรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้นภายใต้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สนุกสนาน ซึ่งความสนุกสนานดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าจะต้องขึ้นสุดขั้ว ขอเพียงแค่การได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีความสุขมีอารมณ์เพลิดเพลินสนุกสนานในระดับที่เหมาะสมก็เพียงพอแล้ว
เพราะว่าเด็กในช่วงวัยนี้ทุกคนล้วนชอบเล่น ซึ่งตัวผู้ปกครองเองและคุณครูสามารถยืนยันและเห็นด้วยในความคิดเห็นดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นที่ โรงเรียน ISC ของเรา โปรแกรมการส่งเสริมการเรียนรู้ในวิชาพละศึกษาของผมจึงใช้การเล่นเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้อยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น สำหรับชั้นเรียน Y2 ในปีการศึกษาที่ผ่านมาผมสอนการฝึก
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ กิจกรรม Kinderswim ของผมสำหรับเด็กที่อยู่ในวัยกำลัหัดเดิน ภายในระยะห้าสัปดาห์หลังจากเริ่มเรียนในครั้งแรกจะเห็นได้ว่าเด็กๆ มีความมั่นใจเมื่อต้องลงน้ำรวมไปถึงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระไปรอบสระว่ายน้ำ หรือแม้กระทั่งความกลัวในการจุ่มใบหน้าลงไปในน้ำก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และอย่างที่ผมกล่าวไปว่าแนวทางการจัดกิจกรรมการสอนของผมจะเป็นการเรียนรู้ผ่านการเล่น ดังนั้นกิจกรรมในระหว่างบทเรียนจึงเน้นที่ความสนุกสนานของตัวผู้เรียนและสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้ตัวผู้เรียนมีความสุขอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง การให้พวกเขาฝึกการว่ายน้ำไปหาคุณพ่อคุณแม่ การเล่นกับของเล่นลอยน้ำและการฝึกฝนการลอยตัวอย่างอิสระ สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็น คุณครูสอนวิชาพละศึกษา ก็คือ ผมมีโอกาสสอนทักษาด้านกีฬา ส่งเสริมความมีน้ำใจนักกีฬา การทำงานร่วมกันเป็นทีม รวมไปถึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้นักเรียนของผมทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและสุขภาพจิตที่ดีด้วย ซึ่งแน่นอนว่าทุกการเรียนการสอนของผมจะต้องมีคำว่าเล่นอย่างสนุกอยู่ในบทเรียนนั้นๆ อยู่ด้วยเสมอ
ผมเชื่อมั่นในความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาที่กล่าวเอาไว้เกี่ยวกับการเล่นและการเรียนรู้ ดังนั้นผมจะขอใช้การเล่นให้เป็นแนวคิดพื้นฐานในการวางแผนการเรียนการสอนของผมในวิชาพละศึกษาที่โรงเรียน ISC แห่งนี้อย่างแน่นอน